หลายคนอาจเริ่มหันมาสนใจการดูแลผิวหน้าด้วยหัตถการทางการแพทย์ เพราะครีมบำรุงหรือสกินแคร์อาจไม่ตอบโจทย์ในบางปัญหา เช่น ริ้วรอย หลุมสิว ผิวหมองคล้ำ หรือความหย่อนคล้อย แต่เมื่อถึงเวลาต้องทำจริง หลายคนก็มีคำถามว่า “ถ้าจะทำหัตถการครั้งแรก ควรเริ่มจากอะไรดี?”
บทความนี้เราจะมาไกด์แบบครบถ้วน ให้คุณรู้จักหัตถการยอดฮิตที่เหมาะกับมือใหม่ พร้อมข้อดี-ข้อเสีย และวิธีเลือกให้ตรงกับปัญหาผิว เพื่อให้คุณเริ่มต้นอย่างปลอดภัยและคุ้มค่า
หัตถการคืออะไร?
หัตถการทางผิวหนัง (Dermatologic Procedure) คือการรักษาหรือฟื้นฟูผิวที่ดำเนินการโดยแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ อาจใช้เทคโนโลยี อุปกรณ์ หรือการฉีดตัวยาเข้าสู่ผิว เพื่อแก้ปัญหาอย่างลึกซึ้งและตรงจุดกว่าการใช้สกินแคร์เพียงอย่างเดียว
ตัวอย่างหัตถการยอดนิยมได้แก่
- เครื่องกลุ่มยกกระชับ (Ultraformer III, Volnewmer, Sylfirm X)
- การฉีด Skin Booster (Exosome, Rejuran)
- การทำเลเซอร์ (เช่น 577nm Yellow Laser)
- การฉีดโบท็อกซ์ (Botox)
- การทำ RF Microneedling (เช่น Venus Viva MD, Sylfirm X)
ตัวเลือกยอดนิยมสำหรับมือใหม่
1. Skin Booster – ฟื้นฟูผิวลึกระดับเซลล์
เหมาะสำหรับ:
- ผิวโทรม หมองคล้ำ
- ขาดน้ำ แต่งหน้าไม่ติด
- ต้องการบำรุงผิวแบบอ่อนโยน เห็นผลชัด
Skin Booster (เช่น ASCE Exosome) ใช้อนุภาคขนาดเล็กจากเซลล์ เพื่อซ่อมแซมผิวระดับเซลล์ ช่วยเพิ่มคอลลาเจน ลดการอักเสบ และเติมความชุ่มชื้นลึก เหมาะกับการเริ่มต้นทำหัตถการเพราะอ่อนโยน ปลอดภัย และพักฟื้นน้อย
Rejuran ใช้โพลีนิวคลีโอไทด์ (PN) จากปลาแซลมอน ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อ เหมาะกับคนที่มีปัญหาหลุมสิว รูขุมขนกว้าง หรือผิวบาง
🕒 เวลาทำ: 30-45 นาที
💥 พักฟื้น: ไม่มีถึงน้อยมาก
2. Sylfirm X – RF Microneedling ฟื้นฟูผิวและยกกระชับ
เหมาะสำหรับ:
- หลุมสิว ริ้วรอย รูขุมขนกว้าง
- ผิวหย่อนคล้อย ต้องการความกระชับ
- มีรอยแดงจากสิวหรือเส้นเลือดฝอย
Sylfirm X ใช้เทคโนโลยี Dual Wave RF (Pulsed + Continuous) ร่วมกับเข็มขนาดเล็ก ส่งพลังงานลงสู่ผิวอย่างแม่นยำ เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนใหม่และฟื้นฟูโครงสร้างผิว เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาหลายอย่างพร้อมกัน
จุดเด่น:
- ช่วยลดรอยแดงจากสิวและรอยเส้นเลือดฝอย
- กระชับรูขุมขนและฟื้นฟูผิว
- ลดริ้วรอยและปรับผิวให้เรียบเนียน
🕒 เวลาทำ: 45-60 นาที
💥 พักฟื้น: 1-2 วัน
3. Botox – ลดริ้วรอยและปรับรูปหน้า
เหมาะสำหรับ:
- ริ้วรอยหน้าผาก หว่างคิ้ว หางตา
- กรามใหญ่ อยากหน้าเรียว
- ต้องการผลลัพธ์เร็ว
Botulinum toxin (โบท็อกซ์) ช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดริ้วรอย และปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น เห็นผลใน 3-7 วัน
🕒 เวลาทำ: 15-30 นาที
💥 พักฟื้น: ไม่มี
4. เลเซอร์หน้าใส (577nm Yellow Laser) – ลดรอยแดงและปรับสีผิว
เหมาะสำหรับ:
- รอยแดงจากสิว
- สีผิวไม่สม่ำเสมอ
- ฝ้า กระ จุดด่างดำเริ่มต้น
577nm Yellow Laser ใช้ความยาวคลื่นที่เหมาะกับการลดรอยแดงและเม็ดสีผิวโดยเฉพาะ อ่อนโยน เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย
🕒 เวลาทำ: 30 นาที
💥 พักฟื้น: แทบไม่มี
โปรแกรมเครื่องกลุ่มยกกระชับ – ปรับรูปหน้าและผิวตึงกระชับแบบไม่ต้องผ่าตัด
เหมาะกับผู้ที่เริ่มรู้สึกว่าผิวหย่อนเล็กน้อย กรอบหน้าไม่ชัด และอยากได้ผลยกกระชับโดยไม่ใช้เข็ม เครื่องเหล่านี้ใช้พลังงานจากคลื่นเสียงหรือคลื่นวิทยุเพื่อกระตุ้นคอลลาเจนจากภายใน
Ultraformer III – HIFU ยกกระชับชั้น SMAS
- ปล่อยคลื่นเสียงความเข้มสูงลงสู่ชั้น SMAS เพื่อดึงผิวให้ตึง
- เหมาะกับผู้ที่ผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง
- ไม่ต้องพักฟื้น ผลอยู่ได้นาน ประมาณ 6 เดือน
Volnewmer – Monopolar RF เพื่อผิวยืดหยุ่นขึ้น
- ใช้คลื่นวิทยุลงลึกถึงชั้นไขมัน กระตุ้นคอลลาเจนทั่วหน้า
- เหมาะกับผิวบาง ผิวไว และต้องการความกระชับทั่วใบหน้า
- ไม่มีรอยหรือสะเก็ดหลังทำ
Sylfirm X – ยกกระชับพร้อมฟื้นฟูผิว
- ใช้ Dual Wave RF ร่วมกับ Microneedling
- เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย รอยสิว และผิวไม่สม่ำเสมอ
- แก้หลายปัญหาได้ในครั้งเดียว
เตรียมตัวก่อนทำหัตถการครั้งแรก
- งดสครับหรือใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว 3-5 วันก่อนทำ
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- แจ้งโรคประจำตัว ยา และประวัติแพ้ยา
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ 1-2 วันก่อนทำ
เลือกคลินิกอย่างไรให้ปลอดภัย
- ตรวจสอบใบอนุญาตคลินิกและแพทย์
- เลือกใช้เครื่องมือและตัวยาที่มีการรับรองมาตรฐาน
- ดูรีวิวและผลงานจริงจากผู้เคยทำ
สรุป
สำหรับมือใหม่ Skin Booster และ เลเซอร์หน้าใส เป็นจุดเริ่มต้นที่อ่อนโยนและปลอดภัย ส่วนผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้า สามารถเลือก Ultraformer III, Volnewmer หรือ Sylfirm X ตามปัญหาผิวและคำแนะนำจากแพทย์