ร่องใต้ตาคืออะไร?

ร่องใต้ตา (Tear Trough) เป็นลักษณะของร่องลึกที่ปรากฏตั้งแต่หัวตาไปจนถึงบริเวณแก้มตอนบน มักเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างผิว ไขมัน และกระดูกบริเวณเบ้าตา ส่งผลให้ใบหน้าดูเหนื่อยและมีอายุแม้จะพักผ่อนเพียงพอ

ลักษณะของร่องใต้ตา

  • ร่องลึกจากหัวตาไปยังแก้ม
  • สีผิวใต้ตาคล้ำกว่าปกติ
  • ทำให้ใบหน้าดูโทรม เหมือนไม่ได้นอน
  • แต่งหน้าไม่เรียบเนียนบริเวณใต้ตา
ใต้ตาดูคล้ำจากร่องใต้ตา

สาเหตุของร่องใต้ตา

1. พันธุกรรม

บางคนมีร่องใต้ตาตั้งแต่เด็กเนื่องจากโครงสร้างกระดูกหรือไขมันที่น้อยเป็นทุนเดิม

2. อายุที่เพิ่มขึ้น

เมื่ออายุมากขึ้น คอลลาเจนลดลง ไขมันใต้ตาและกระดูกแก้มยุบตัว ทำให้ร่องชัดเจนขึ้น

3. พฤติกรรมการใช้ชีวิต

เช่น การพักผ่อนน้อย ความเครียด ขยี้ตาบ่อย หรือใช้สายตาหนัก ส่งผลให้ผิวใต้ตาเสื่อมเร็ว

4. ผิวบางและความยืดหยุ่นลดลง

ใต้ตาเป็นบริเวณที่ผิวบางที่สุดบนใบหน้า จึงเกิดร่องได้ง่ายเมื่อคอลลาเจนลดลง

วิธีแก้ไขร่องใต้ตา

การฉีดฟิลเลอร์ร่องใต้ตา

การฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มร่องใต้ตาให้เรียบเนียนขึ้น เป็นวิธีที่ปลอดภัย เห็นผลเร็ว และไม่ต้องผ่าตัด

ข้อดี

  • เห็นผลทันที
  • ไม่ต้องพักฟื้น
  • แก้ไขปัญหาเฉพาะจุดได้แม่นยำ

ข้อควรระวัง

  • ต้องเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง
  • ใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้นเพื่อลดความเสี่ยง
ตัวอย่างผลลัพธ์การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ไขร่องใต้ตาลึก

การกระตุ้นคอลลาเจนด้วยเลเซอร์หรือคลื่นพลังงาน

  • RF Microneedle: ใช้คลื่น RF จุดเล็กกระตุ้นคอลลาเจน
  • Monopolar RF: ยกกระชับผิว ลดร่องลึกจากโครงสร้างผิวหย่อนคล้อย

การใช้สกินแคร์เฉพาะจุด

เลือกผลิตภัณฑ์ที่มี Peptides, Retinol, หรือ Vitamin C เพื่อเสริมความแข็งแรงของผิวและลดร่องให้ดูตื้นขึ้น

ดูแลจากภายใน

ดื่มน้ำมาก ๆ พักผ่อนเพียงพอ ลดเครียด และรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น เบอร์รี่ ถั่ว ปลาแซลมอน

การดูแลหลังฟื้นฟูร่องใต้ตา

  • หลีกเลี่ยงการขยี้ตาและนวดแรงบริเวณใต้ตา
  • งดการแต่งหน้าหรือใช้ครีมแรง ๆ อย่างน้อย 24–48 ชั่วโมง
  • ประคบเย็นใน 1-2 วันแรกหากมีรอยบวมจากการฉีดฟิลเลอร์
  • ปรึกษาแพทย์หากมีรอยนูนหรือตุ่มผิดปกติ

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

วิธีที่ใช้ในปัจจุบันสามารถฟื้นฟูให้ดีขึ้นอย่างชัดเจน แต่ไม่ได้แก้ถาวร ต้องดูแลต่อเนื่องทุก 6–12 เดือน

ปริมาณเฉลี่ยคือข้างละ 0.5–1 cc แนะนำให้ประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทำ

ร่องใต้ตาคือรอยยุบ ขณะที่ถุงใต้ตาเป็นการนูนของไขมัน การรักษาจะแตกต่างกัน