เมื่ออายุมากขึ้น หรือแม้แต่ภายใต้สภาวะบางอย่าง เช่น ความเครียด มลภาวะ หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม ผิวของเราก็เริ่มส่งสัญญาณแห่งวัยออกมา หนึ่งในปัญหาที่หลายคนกังวลมากที่สุดก็คือ “ผิวหย่อนคล้อย” (Sagging Skin) ที่ทำให้ใบหน้าและรูปร่างดูไม่กระชับเหมือนเดิม

ผิวหย่อนคล้อยคืออะไร?

ผิวหย่อนคล้อยเกิดจากการเสื่อมสภาพของโครงสร้างผิวตามธรรมชาติ ได้แก่ คอลลาเจน อีลาสติน และกรดไฮยาลูโรนิกในชั้นผิว ซึ่งมีหน้าที่ช่วยพยุงและเติมเต็มผิว เมื่อโครงสร้างเหล่านี้เสื่อมสภาพลง ผิวจึงสูญเสียความกระชับ เรียบเนียน และเกิดการหย่อนตัวตามแรงโน้มถ่วง

สาเหตุของผิวหย่อนคล้อย

1. อายุที่เพิ่มขึ้น

เมื่อเราอายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิต คอลลาเจน (Collagen) และ อีลาสติน (Elastin) ลดลง ซึ่งเป็นเส้นใยสำคัญในการพยุงโครงสร้างผิว ผิวจึงเริ่มบางและหย่อนคล้อยตามวัย

  • อายุ 25 ปี: คอลลาเจนเริ่มลดลง ~1% ต่อปี
  • อายุ 40 ปี: ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้น้อยลงอย่างชัดเจน
  • อายุ 50 ปีขึ้นไป: การเสื่อมสภาพชัดเจน ผิวมักเริ่มยุบตัว

2. แสงแดด (Photoaging)

รังสี UVA/UVB จากแสงแดดทำลายเส้นใยคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ การสัมผัสแดดโดยไม่ป้องกันเป็นระยะเวลานานจะเร่งการเสื่อมสภาพของผิวเร็วกว่าธรรมชาติ

3. การลดน้ำหนักเร็วเกินไป

การลดน้ำหนักแบบรวดเร็วทำให้ร่างกายสูญเสียไขมันใต้ผิวก่อนที่ผิวจะมีเวลาหดตัวตาม ส่งผลให้เกิดผิวหย่อนบริเวณต้นแขน หน้าท้อง และต้นขา

4. การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์

  • นิโคตินลดการไหลเวียนโลหิต ทำให้ผิวขาดออกซิเจน
  • แอลกอฮอล์ลดความชุ่มชื้นและสร้างอนุมูลอิสระ ทำลายผิวอย่างเร่งด่วน

5. ความเครียดและการนอนน้อย

เมื่อร่างกายไม่ได้พักผ่อนเพียงพอหรืออยู่ในภาวะเครียดต่อเนื่อง ฮอร์โมนคอร์ติซอลจะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดการสลายคอลลาเจนและการซ่อมแซมผิวลดลง

6. อาหารแปรรูป น้ำตาลสูง และไขมันทรานส์

การรับประทานอาหารที่มี น้ำตาลสูง หรือ ไขมันทรานส์ เป็นประจำจะเพิ่มกระบวนการ “ไกลเคชั่น (Glycation)” ที่ทำให้คอลลาเจนเสื่อมเร็วขึ้น


ผิวหย่อนคล้อยพบได้ในส่วนไหนบ้าง?

  • ใบหน้า: ร่องแก้มลึก, แก้มหย่อน, ขากรรไกรหย่อน
  • ลำคอ: คอเหี่ยว คางสองชั้น
  • ท้องแขน: ต้นแขนหย่อนยาน
  • หน้าท้อง: หลังคลอดหรือลดน้ำหนักมาก
  • ต้นขาและก้น: ผิวไม่กระชับ

วิธีการฟื้นฟูผิวหย่อนคล้อย

เทคโนโลยียกกระชับด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ (HIFU)

High Intensity Focused Ultrasound (HIFU) คือการใช้คลื่นเสียงความถี่สูงลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ดึงหน้า ช่วยยกกระชับและกระตุ้นคอลลาเจนใหม่อย่างเป็นธรรมชาติ

ข้อดี: ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลชัดใน 2-3 เดือน

ข้อควรระวัง: บางคนอาจรู้สึกเจ็บขณะทำ

อ่านเพิ่มเติม: HIFU ไฮฟู คืออะไร ราคาเท่าไหร่ ทำเองได้ไหม?


เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ (RF)

Radiofrequency (RF) ใช้คลื่นวิทยุส่งพลังงานความร้อนเข้าสู่ชั้นผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและกระชับเส้นใยอีลาสติน เหมาะสำหรับผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง

ข้อดี: กระตุ้นผิวอ่อนโยน เจ็บน้อย

ข้อควรระวัง: ต้องทำต่อเนื่องหลายครั้งเพื่อผลลัพธ์ชัดเจน

อ่านเพิ่มเติม: Monopolar RF คืออะไร? เทคโนโลยีกระชับผิวเพื่อผิวเรียบตึงดูเป็นธรรมชาติ

ฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มผิว

การฉีดฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มบริเวณที่สูญเสียไขมันและทำให้เกิดร่องลึก เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม ช่วยให้ผิวดูเต่งตึงขึ้นทันที

ข้อดี: เห็นผลทันทีหลังฉีด

ข้อควรระวัง: ต้องทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อน


วิธีดูแลตัวเองเพื่อป้องกันผิวหย่อนคล้อย

  • ทาครีมกันแดดทุกวัน
  • ใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมกระตุ้นคอลลาเจน เช่น วิตามินซี, เปปไทด์
  • รับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • หลีกเลี่ยงบุหรี่และแอลกอฮอล์

ได้ โดยเฉพาะคนที่เริ่มมีร่องแก้มหรือขอบกรามหย่อน การทำตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจะเห็นผลชัดเจนกว่า

Monopolar RF ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ ส่วน HIFU ใช้คลื่นเสียง จุดลงพลังงานและระดับความลึกต่างกัน ผลลัพธ์ใกล้เคียงแต่เหมาะกับคนละปัญหา

หน้าอาจเรียวขึ้นจากการยกกระชับแนวกรอบหน้าและแก้มที่หย่อนคล้อย

ผิวสามารถฟื้นฟูให้กระชับขึ้นได้มาก แต่การ “หายขาด” ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ พฤติกรรม และการดูแลต่อเนื่อง